ถ้า ออกซิเจนในเลือด เราเพียงพอ เราก็จะแข็งแรง
4mega2021-05-10T16:17:38+07:00ปัจจุบันต่างๆ Smart Watch รุ่นใหม่ๆ ทั้ง Apple Watch และ Garmin นอกจากจะมีการวัดค่า Heart Rate หรือ อัตราการเต้นของหัวใจแล้ว สมัยนี้ก็ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจตัวปริมาณออกซิเจนในเลือดด้วยเช่นกัน ซึ่งปกติเราก็ได้ออกซิเจนจากการหายใจเข้าอยู่แล้ว เราทำไมค่าออกซิเจนในเลือดของแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วค่าออกซิเจนในเลือดมันสำคัญกับเราอย่างไร?
ออกซิเจนในเลือด มีหน้าที่ทำอะไร?
อากาศที่อยู่รอบตัวเรานั้นส่วนประกอบหลักคือ ออกซิเจน ซึ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตทั้งของมนุษย์ พืช และสัตว์ ก๊าซออกซิเจนนั้นมีความสำคัญกับกระบวนการทางร่างกายที่มากกว่าการหายใจเข้าไปแล้วหายใจออกมาเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเราสูดก๊าซออกซิเจนเข้าไปในตัวแล้ว ร่างกายก็เริ่มกระบวนการหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน เช่น เปลี่ยนอาหารในพุงให้เป็นพลังงาน เซลล์ต่างๆ ก็มีการซ่อมแซมตัวเอง วิตามินและเอนไซม์ต่างๆ ในตัวเราก็เริ่มทำงานตามหน้าที่ของมัน
- เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน
- เซลล์ต่างๆ ซ่อมแซมตัวเอง
- วิตามินและเอนไซม์ต่างๆ ในตัวเราก็เริ่มทำงาน
ถ้าร่างกายเราขาดออกซิเจนละ?
ดังนั้น เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดออกซิเจนการทำงานของเม็ดเลือดแดงก็จะถูกขัดขวาง เซลล์ในร่างกายต่างๆ ก็จะเริ่มทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เริ่มจากเผาผลาญอาหารได้น้อยลง การซ่อมแซมอวัยวะต่างๆ ของเซลล์ช้าลง สารอาหารที่เราทานเข้าไปในร่างกายไม่สามารถถูกเอามาใช้ได้เต็มที่ แล้วจากนั้นก็อาจจะส่งผลกระทบระยะยาวเช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ตับ เซลล์สมองก็จะตายลง นั่นคือภาวะหัวใจล้มเหลวที่กล่าวถึงในตอนต้น โดยเราแบ่งระดับต่างๆ ของออกซิเจนในเลือดที่มีผลกับร่างกายได้ดังนี้
เราสามารถวัดค่า ออกซิเจนในเลือดเรา ได้อย่างไร?
- เครื่องวัดออกซิเจนที่นิ้ว แต่ต้องเลือกเครื่องที่เชื่อถือได้ แนะนำให้หาใบรับรองด้วย เพราะตอนนี้ในตลาดมีตั้งแต่ราคาหลักร้อย จนถึงราคาหลักพัน
- Smart Watch ทั้งค่าย Apple และ Garmin แต่การวัดค่าออกซิเจนของ Smart Watch อาจจะไม่ได้ตรง 100% แต่สามารถวัดได้ทั้งวัน ทำให้สะดวกมากสำหรับคนที่อยากตรวจดูร่างกายของเราตลอดเวลา เพียงแค่กดดูที่นาฬิกาเท่านั้นเอง
- เครื่องตรวจวัดค่าออกซิเจนในโรงพยาบาล ในโรงพยาบาลก็เป็นเครื่องวัดค่าออกซิเจนจากที่นิ้วเหมือนกัน
ระดับปริมาณออกซิเจนในเลือดของเรา
ระดับออกซิเจนต่ำ (Hypoxemia หรือ Hypoxia) ค่าออกซิเจนในเลือดน้อยกว่า 96%
- อาจจะมาจากโรคโลหิตจาง
- โรคปอดหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับปอดและหลอดลม ภาวะน้ำท่วมปวด
- หงุดหงิดง่าย
- สติเริ่มพร่าเบลอ สมองสั่งการผิดๆ
ระดับออกซิเจนปกติ – ปริมาณของออกซิเจนในเลือดนี้จะอยู่ที่ 96% ถึง 99%
- สมองจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีสมาธิที่ดี
- ระบบความจำและการเรียนรู้ก็จะทำงานสัมพันธ์กับการสั่งการของสมอง
- มีความคิด วิเคราะห์ แยกแยะ
วิธีเพิ่มออกซิเจนในร่างกายง่ายๆ
- สูดหายใจเข้าออกอย่างถูกวิธี (หายใจให้เต็มปอด หายใจด้วยท้อง)
- ดื่มน้ำบ่อยๆ
- นวด ให้เลือดลมไหลเวียน
- อาบน้ำ แช่น้ำอุ่น หรือ ซาวน่า ให้เลือดลมไหลเวียน
- เพิ่มธาตุเหล็กในร่างกาย จากการกินอาหาร หรือ อาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กสูง
- ออกกำลังกาย อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ
ออกซิเจนในเลือด เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างมากต่อร่างกาย ดังนั้นเราจึงควรรักษาสมดุลของร่างกายด้วยการดูแลตัวเองสม่ำเสมอ หรือใช้ตัวช่วย เช่น ทานอาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย เมื่อร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ระบบการทำงานทุกส่วนก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อ้างอิงจาก https://adaybulletin.com/know-agenda-apple-watch-the-blood-oxygen/56281
ใส่ความเห็น