เสริมภูมิ ต้านโควิด-19 ด้วยเลือดจระเข้
4mega2021-05-12T13:25:17+07:00ในช่วงเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา เราทุกคนต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและดูแลตัวเองอยู่เสมอ ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 โดยสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำให้เกิดเป็นนิสัยคือการล้างมือบ่อยๆ อย่างต่ำ 20 วินาที ร่วมกับการฉีดสเปรย์แอลกอฮอลล์หรือเจลล้างมือ นอกจากนี้ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำทุกครั้งเมื่อต้องเดินทางไปตามที่สาธารณะต่างๆ แต่วิธีการที่กล่าวไปทั้งหมดนี้เป็นเพียงการปกป้องดูแลร่างกายจากภายนอกเท่านั้น เราต้อง เสริมภูมิ จากภายในด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด พื้นฐานสำหรับการดูแลตัวเองในยุคนี้นั้นไม่ใช่แค่เพียงแค่รักษาความสะอาดภายนอกร่างกาย หากแต่รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สำคัญเช่นกัน โดยสิ่งที่เราอยากย้ำให้ทุกๆ คนตระหนักถึงคือการดูแลสุขภาพตัวเองจากภายใน หรือเรียกว่าการ เสริมภูมิ คุ้มกันจากระบบการทำงานภายในร่างกายให้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับเลือด (Oxygen) และเมื่อร่างกายแข็งแรงก็จะช่วยต้านโควิด-19 ได้ หรือจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และที่สำคัญคือควรรับประทานอาหารที่สด ใหม่ สุก และสะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสารอาหารที่จะเข้าสู่ร่างกายนั้นปลอดจากเชื้อโรค โดยเฉพาะ ณ เวลานี้ที่เราทุกคนมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกรับประทานสารอาหารที่มีสรรพคุณช่วย เสริมภูมิ คุ้มกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อาทิ จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ (Probiotics) จุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ในการสร้าง เสริมภูมิ คุ้มกัน สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ อย่างพวกโรคภูมิแพ้ แก้หวัดได้ หรือเลือกรับประทานสมุนไพรใกล้ตัวอย่าง “ขมิ้นชัน” ที่เปี่ยมไปด้วยสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) และ เดเมทอกซี่เคอร์คูมิน (Demethoxycurcumine) ที่มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบของเนื้อเยื่อ และยังช่วยลดการอักเสบของปอดที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่ถูกทำลาย และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต้านโควิด-19 นอกจากนี้จากงานวิจัยยังพบอีกว่า สารสำคัญในขมิ้นชันอย่างเดเมทอกซี่เคอร์คูมิน (Demethoxycurcumine) สามารถยับยั้งการแบ่งตัวของไวรัสของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 2019 ที่จะเข้าสู่เซลล์ปอด และยังสามารถฟื้นฟูระบบภายในร่างกายที่ถูกทำลายไปแล้วให้กลับมามีสภาพสมบูรณ์ได้อีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสารอาหารสำคัญที่คุณอาจนึกไม่ถึงว่านี่คือหนึ่งในสุดยอดอาหารชั้นเลิศที่มีประโยชน์และจำเป็นต่อร่างกาย ขอแนะนำให้รู้จักกับ “เลือดจระเข้” แหล่งรวมแร่ธาตุและโปรตีนชั้นยอด เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์นับร้อยที่ร่างกายของคุณต้องการ จุดเริ่มต้นของการศึกษาด้านกายภาพและเลือดจระเข้เริ่มต้นมาจากการที่นักวิทยาศาสตร์สังเกตว่า จระเข้นั้นต้องเผชิญกับการต่อสู้มานับหลายร้อยครั้งในชั่วชีวิตของมัน ด้วยความที่มีสัญชาตญาณของนักล่าเนื้ออยู่เต็มเปี่ยม ผสมผสานกับนิสัยโดยธรรมชาติของจระเข้ที่มีความหวงถิ่นที่อยู่ สูงมาก ทำให้ต้องต่อสู้กับเพื่อนร่วมสายพันธุ์เดียวกัน หรือสัตว์ประเภทอื่นอยู่บ่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นจระเข้กลับเป็นสัตว์ที่ยังคงสามารถดำรงชีวิตอาศัยอยู่ตามแหล่งหนองน้ำหรือบึงน้ำที่มีแบคทีเรียและเชื้อโรคต่อได้อย่างสบายๆ แม้ร่างกายของมันจะเกิดการบาดเจ็บหรือมีบาดแผลขนาดใหญ่ก็ตาม
จากข้อสังเกตนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้นศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยเกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของระบบร่างกายจระเข้ ว่ามีปัจจัยไหนที่ทำให้จระเข้สามารถรักษาบาดแผลของตัวเองให้หายได้ แม้จะอาศัยอยู่ร่วมกับแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียมากมาย และจะได้นำจุดนั้นมาพัฒนาต่อยอดเพื่อใช้กับร่างกายมนุษย์ให้สามารถ เสริมภูมิ และคงความแข็งแรงได้แบบจระเข้ โดยจากงานวิจัยพบว่าฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเลือดจระเข้สามารถช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรีย 23 สายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ที่ทนทานหรือดื้อต่อยาปฏิชีวนะได้ดี ในขณะที่เลือดมนุษย์สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียได้เพียง 8 สายพันธุ์เท่านั้น ความน่าสนใจของเลือดจระเข้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เนื่องจากภายในเลือดจระเข้มีระบบการจัดสรรออกซิเจน (Oxygen) ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้การลำเลี้ยงเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ นั้นเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ และอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือภายในเลือดจระเข้มีเปปไทด์ที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ร้ายแรงได้ เพราะเลือดจระเข้สามารถสร้างแอนติบอดีต่อการติดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งเลือดจระเข้ยังอุดมไปด้วยแหล่งโปรตีนที่สามารถกำจัดจับตัวของเชื้อไวรัส และยังมีธาตุเหล็กที่มีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่ช่วยส่งเสริมระบบการทำงานของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย
จากสรรพคุณข้างต้นจะเห็นได้ชัดเลยว่าภายในเลือดจระเข้อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมายที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์เรา ทั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมีการบริโภคเลือดจระเข้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจำเป็นต้องฆ่าจระเข้เพียงเพราะต้องการเลือด และที่สำคัญเลือดจระเข้ไม่ได้หากินยากอย่างที่คิด เพราะในปัจจุบันได้มีฟาร์มจระเข้ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการรับรอง CITES จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เลือดจระเข้สกัดแห้ง ด้วยกระบวนการตรงตามหลักจริยธรรม (ใช้เทคนิคเดียวกันกับการเจาะเลือดบริจาคในคน) ซึ่งหลังจากที่เจาะเลือดจระเข้ออกมาในจำนวน 200 มิลลิลิตรแล้ว จระเข้ตัวก็จะถูกปล่อยตัวกลับไปใช้ชีวิตตามปกติตามธรรมชาติต่อไป
ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่าเราทุกคนจะเกิดมาพร้อมกับภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่เจอในชีวิตประจำวันได้อยู่แล้ว แต่อย่าลืมว่าแค่นั้นอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้ที่เราทุกคนกำลังใช้ชีวิตเสี่ยงอยู่ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ 2019 ดังนั้นการเลือกรับประทานสารอาหารที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเลือดจระเข้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยเสริมภูมิให้ร่างกายของเราต้านโควิด-19 ได้ดีมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
References:
- https://medthai.com/ขมิ้นชัน/
- https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/issue037/healthy-eating
- https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/july-2019/probiotics-and-prebiotics
- https://www.newscientist.com/article/mg14519612-900-why-crocodiles-rarely-come-up-for-air/
- https://www.nationalgeographic.com/animals/article/alligator-blood-antibiotics
- https://www.sciencedaily.com/releases/2015/02/150211184703.htm
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานวิจัยเรื่องเลือดจระเข้ ได้ที่นี่
ใส่ความเห็น