Warning: is_readable(): open_basedir restriction in effect. File(/includes/fbwpml.php) is not within the allowed path(s): (/home/admin/:/tmp/:/var/tmp/:/opt/alt/php74/usr/share/pear/:/dev/urandom:/usr/local/php74/lib/:/usr/local/php74/lib/:/usr/local/php72/lib/:/usr/local/php56/lib/:/usr/local/lib/php/) in /home/admin/domains/4mega.com/public_html/wp-content/plugins/facebook-for-woocommerce/includes/Integrations/Integrations.php on line 61

Warning: is_readable(): open_basedir restriction in effect. File(/includes/Integrations/Bookings.php) is not within the allowed path(s): (/home/admin/:/tmp/:/var/tmp/:/opt/alt/php74/usr/share/pear/:/dev/urandom:/usr/local/php74/lib/:/usr/local/php74/lib/:/usr/local/php72/lib/:/usr/local/php56/lib/:/usr/local/lib/php/) in /home/admin/domains/4mega.com/public_html/wp-content/plugins/facebook-for-woocommerce/includes/Integrations/Integrations.php on line 61
เลือดจระเข้ Superfood Archives - Page 2 of 3 - 4MEGA

เลือดจระเข้ Superfood

เบาหวาน เลือดจระเข้ IGF-1

IGF-1 สารต้านเบาหวานในเลือดจระเข้

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับ IGF-1 มาก่อนว่าคืออะไรและมีประโยชน์เกี่ยวข้องอย่างไรกับการรักษาโรคเบาหวาน เราจะมาอธิบายง่ายๆ ให้คุณเข้าใจกัน โดย IGF-1 หรือ Insulin-like growth factor-I คือฮอร์โมนที่เป็นโปรตีนและมีกรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบรวม 70 ตัว พบในร่างกายมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม คุณสมบัติของสาร IGF-1 นั้นทำหน้าที่คล้ายโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) นอกจากนี้ยังเป็นสารช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่มีประสิทธิภาพสูงคล้ายอินซูลิน โดยผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ระบบการทำงานของเบต้าเซลล์จะบกพร่องจนทำให้ผลิตอินซูลินได้ลดลง จึงเกิดน้ำตาลตกค้างในกระแสเลือดมากกว่าปกติและปนออกมากับปัสสาวะ IGF-1 จะเป็นหนึ่งในตัวช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ และนิยมนำมาใช้เพื่อทดแทนการฉีดอินซูลินเข้าสู่ในร่างกายด้วยความความเร่งรีบในการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้บางคนมีพฤติกรรมการกินที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด เพราะสะดวกและเร็วกว่าเพื่อต้องการแข่งขันกับเวลา นอกจากนี้เทรนด์การกินของหวานอย่างเค้ก, เบเกอรี่ และชานมไข่มุกก็เป็นอีกหนึ่งประเภทอาหารยอดฮิตที่คนรุ่นใหม่นิยมบริโภค ถ้าหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมควบคู่ไปกับการออกกำลังก็ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่ง แต่ถ้าหากรับประทานอาหารเหล่านี้ทุกวัน ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจจะนำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคความดัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะน้ำตาลในเลือดสูงจนนำไปสู่โรคเบาหวานได้ในที่สุดโรคเบาหวาน หรือ Diabetes Mellitus (DM) คือภาวะที่ร่างกายมีน้ำตาลในเลือดสูงผิดปกติ เนื่องจากขาดฮอร์โมนอินซูลิน...

Read more...
เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด

เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด เพิ่มภูมิคุ้มกัน ด้วยเลือดจระเข้

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าการที่คนเราสามารถมีชีวิตอยู่ได้นั้นก็เป็นเพราะร่างกายมีก๊าซออกซิเจน (Oxygen) ที่เป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิต โดยร่างกายของเรานั้นใช้ก๊าซออกซิเจนในกระบวนการต่างๆ หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการหายใจ หลักการคือเราจะนำก๊าซออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายโดยการหายใจเอาอากาศเข้าไปในปอด และเมื่อก๊าซออกซิเจนเข้าสู่ปอดก็จะเกิดกระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซเพื่อให้ก๊าซออกซิเจนเข้าไปจับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงและเข้าสู่หัวใจ จากนั้นหัวใจจะทำการส่งเม็ดเลือดแดงที่เต็มไปด้วยออกซิเจนนี้ไปยังอวัยวะต่างๆ เพื่อเข้าไปหล่อเลี้ยงรักษาให้เซลล์มีชีวิตอยู่ต่อไป อาทิ เซลล์สมอง เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ไต เซลล์ตับ เป็นต้น ดังนั้นถ้าร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจนหรือได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ก็จะทำให้เซลล์เหล่านี้ตายและส่งผลให้อวัยวะของร่างกายตายตามไปด้วย นอกจากนี้มนุษย์ยังใช้ก๊าซออกซิเจนในกระบวนการเมตาบอลิซึม (Metabolism) หรือที่เรารู้จักกันในนามของกระบวนการเผาผลาญพลังงาน ที่ออกซิเจนนั้นเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญสำหรับการสังเคราะห์เพื่อเปลี่ยนอาหารมาเป็นพลังงานให้แก่ร่างกาย รวมถึงกระบวนการรักษาซ่อมเซลล์และเนื้อเยื่อภายในต่างๆ ของร่างกายที่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยออกซิเจนเป็นตัวดำเนินการฟื้นฟูเพื่อให้ในร่างกายกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ รวมทั้งการสร้างเส้นเลือดขึ้นใหม่ ทำให้ระบบภายในร่างกายได้หลอดเลือดที่แข็งแรง และมีปริมาณหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ร่างกายของเรายังใช้ออกซิเจนในการสังเคราะห์เอนไซม์และวิตามินต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายเพื่อนำไปใช้อย่างตรงจุด และเมื่อร่างกายสามารถใช้ประโยชน์ต่างๆ จากแร่ธาตุเหล่านั้นก็จะเป็นการเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรงในปัจจุบันนี้มนุษย์เรามีเทคโนโลยีที่เข้ามาส่งเสริมคุณภาพการใช้ชีวิตมากมาย และหนึ่งในแกดเจ็ตที่น่าจับตามองและเป็นสิ่งที่คนรักสุขภาพหันมาใช้มากขึ้นคือเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้วและนาฬิกาสมาร์ตวอชที่มีฟังก์ชันการวัดระดับออกซิเจนในเลือด โดยหลักการทำงานของทั้งสองเครื่องนี้เหมือนกันตรงที่สามารถตรวจวัดระดับค่าความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือด ถ้าหากตรวจพบค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ (Hypoxemia หรือ Hypoxia) อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าภูมิคุ้มกันของคุณต่ำลง ซึ่งภาวะนี้บ่งบอกโรคในเบื้องต้นได้ตั้งแต่ความผิดปกติของปอด โรคโลหิตจาง โรคหัวใจ ภาวะอ้วน โรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดลมและปอด เป็นต้น โดยโรคเหล่านี้จะทำให้ปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ ร่างกายจึงเกิดภาวะขาดออกซิเจนในที่สุด ดังนั้นผู้ที่ตรวจพบภาวะออกซิเจนลดต่ำลงนี้จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้อง เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด เพื่อให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงและห่างไกลจากโรคร้ายทั้งหลาย เทคนิคง่ายๆ ในการ เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือดคุณสามารถ เพิ่มปริมาณออกซิเจนในเลือด ได้จากหลากหลายวิธีได้แก่ การออกกำลังกายเป็นประจำ...

Read more...
น้ำตาลในเลือดสูง

น้ำตาลในเลือดสูง มีสัญญานอะไรบ้าง?

ปกติร่างกายคนเราสามารถควบคุมน้ำในเลือดได้ เพราะฮอร์โมนอิลซูลินในร่างกายทำงานปกติ แต่ถ้า น้ำตาลในเลือดสูง เป็นเพราะร่างกายไม่สามารถควบคุมอิลซูลินได้อินซูลิน นั้นเป็นฮอร์โมนตัวหนึ่งที่สำคัญภายในร่างกาย สร้างและหลั่งออกมาจากเบต้าเซลล์ของตับอ่อน มีหน้าที่พาน้ำตากลูโคสเข้าสู่เนื้อเยื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเผาผลาญและเป็นพลังงานที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิต หากร่างกายขาดอินซูลิน หรืออินซูลินนั้นออกฤทธิ์ได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายก็จะใช้การไม่ได้ เป็นเหตุให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีเพิ่มสูงขึ้นจนเกิดเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งนอกจากจะมีความผิดปกติในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตแล้ว ก็ยังมีความผิดปกติในด้านอื่นๆ ด้วย เช่น มีการสลายตัวของสารไขมันและโปรตีนร่วม สาเหตุใด ทำให้ตับอ่อนของคนบางคนสร้างอินซูลินได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายและสาเหตุใดที่ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่อการออกฤทธิ์ของอินซูลินขึ้นมา ก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด เราทราบแต่เพียงว่ามีปัจจัยทั้งทางพันธุกรรมและปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมมาเกี่ยวข้อง ผู้ที่มีภาวะ น้ำตาลในเลือดสูง มักมีสาเหตุมาจากโรคเบาหวานเป็นหลัก เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นมีระดับน้ำตาลสูงขึ้นได้ง่าย เนื่องจากร่างกายมีฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอหรือเกิดภาวะดื้ออินซูลิน ทำให้การควบคุมระดับน้ำตาลผิดปกติ ต่างจากคนทั่วไปที่ฮอร์โมนอินซูลินจะถูกผลิตและหลั่งจากตับอ่อนหลังมื้ออาหาร โดยทำหน้าที่เป็นตัวนำน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ต่าง ๆ ทั่วร่างกายเพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงในระดับปกติน้ำตาลในเลือดสูงมักไม่มีอาการบ่งบอกในช่วงแรก แต่เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติได้เมื่อระดับน้ำตาลสูงเกิน 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป ภาวะน้ำตาลสูงภาวะเริ่มต้นปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนมองเห็นไม่ชัดกระหายน้ำมากปวดศีรษะเหนื่อยง่ายผู้ที่ระดับน้ำตาลสูงขึ้นและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจเกิดภาวะเลือดเป็นกรดจากการสะสมของสารคีโตน (Ketones) ซึ่งเป็นของเสียในเลือดและปัสสาวะ ทำให้มีอาการอื่นตามมา เช่นลมหายใจมีกลิ่นคล้ายผลไม้หายใจสั่นปากแห้งคลื่นไส้ อาเจียนปวดท้องอ่อนเพลียน้ำหนักลดรู้สึกสับสนแผลหายช้ากว่าปกติติดเชื้อบริเวณช่องคลอดหรือผิวหนังในรายที่อาการรุนแรงอาจเป็นลม หมดสติเส้นประสาทเสียหาย ส่งผลให้มีอาการเท้าเย็นจนปวดหรือไม่มีความรู้สึก ขนขาล่วง หรือหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น ท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรังมีปัญหาเกี่ยวกับดวงตา หลอดเลือด หรือไตวิธีป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงสิ่งสำคัญของการป้องกันโรคเบาหวานทุกชนิด คือ...

Read more...
ออกซิเจนในเลือด

ถ้า ออกซิเจนในเลือด เราเพียงพอ เราก็จะแข็งแรง

ปัจจุบันต่างๆ  Smart Watch รุ่นใหม่ๆ ทั้ง Apple Watch และ Garmin นอกจากจะมีการวัดค่า Heart Rate หรือ อัตราการเต้นของหัวใจแล้ว สมัยนี้ก็ยังมีเซ็นเซอร์ตรวจตัวปริมาณออกซิเจนในเลือดด้วยเช่นกัน ซึ่งปกติเราก็ได้ออกซิเจนจากการหายใจเข้าอยู่แล้ว เราทำไมค่าออกซิเจนในเลือดของแต่ละคนไม่เท่ากัน แล้วค่าออกซิเจนในเลือดมันสำคัญกับเราอย่างไร?ออกซิเจนในเลือด มีหน้าที่ทำอะไร?อากาศที่อยู่รอบตัวเรานั้นส่วนประกอบหลักคือ ออกซิเจน ซึ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตทั้งของมนุษย์ พืช และสัตว์ ก๊าซออกซิเจนนั้นมีความสำคัญกับกระบวนการทางร่างกายที่มากกว่าการหายใจเข้าไปแล้วหายใจออกมาเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อเราสูดก๊าซออกซิเจนเข้าไปในตัวแล้ว ร่างกายก็เริ่มกระบวนการหลายๆ อย่างไปพร้อมกัน เช่น เปลี่ยนอาหารในพุงให้เป็นพลังงาน เซลล์ต่างๆ ก็มีการซ่อมแซมตัวเอง วิตามินและเอนไซม์ต่างๆ ในตัวเราก็เริ่มทำงานตามหน้าที่ของมัน เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงานเซลล์ต่างๆ ซ่อมแซมตัวเองวิตามินและเอนไซม์ต่างๆ ในตัวเราก็เริ่มทำงานถ้าร่างกายเราขาดออกซิเจนละ? ดังนั้น เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะขาดออกซิเจนการทำงานของเม็ดเลือดแดงก็จะถูกขัดขวาง เซลล์ในร่างกายต่างๆ ก็จะเริ่มทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ เริ่มจากเผาผลาญอาหารได้น้อยลง การซ่อมแซมอวัยวะต่างๆ ของเซลล์ช้าลง สารอาหารที่เราทานเข้าไปในร่างกายไม่สามารถถูกเอามาใช้ได้เต็มที่ แล้วจากนั้นก็อาจจะส่งผลกระทบระยะยาวเช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ตับ เซลล์สมองก็จะตายลง นั่นคือภาวะหัวใจล้มเหลวที่กล่าวถึงในตอนต้น โดยเราแบ่งระดับต่างๆ ของออกซิเจนในเลือดที่มีผลกับร่างกายได้ดังนี้ เราสามารถวัดค่า...

Read more...
เสริมภูมิ ต้านโควิด-19 ด้วยเลือดจระเข้

เสริมภูมิ ต้านโควิด-19 ด้วยเลือดจระเข้

ในช่วงเวลาเกือบสองปีที่ผ่านมา เราทุกคนต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังและดูแลตัวเองอยู่เสมอ ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตของการแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 โดยสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำให้เกิดเป็นนิสัยคือการล้างมือบ่อยๆ อย่างต่ำ 20 วินาที ร่วมกับการฉีดสเปรย์แอลกอฮอลล์หรือเจลล้างมือ นอกจากนี้ยังต้องสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำทุกครั้งเมื่อต้องเดินทางไปตามที่สาธารณะต่างๆ แต่วิธีการที่กล่าวไปทั้งหมดนี้เป็นเพียงการปกป้องดูแลร่างกายจากภายนอกเท่านั้น เราต้อง เสริมภูมิ จากภายในด้วย เหนือสิ่งอื่นใด พื้นฐานสำหรับการดูแลตัวเองในยุคนี้นั้นไม่ใช่แค่เพียงแค่รักษาความสะอาดภายนอกร่างกาย หากแต่รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็สำคัญเช่นกัน โดยสิ่งที่เราอยากย้ำให้ทุกๆ คนตระหนักถึงคือการดูแลสุขภาพตัวเองจากภายใน หรือเรียกว่าการ เสริมภูมิ คุ้มกันจากระบบการทำงานภายในร่างกายให้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับเลือด (Oxygen) และเมื่อร่างกายแข็งแรงก็จะช่วยต้านโควิด-19 ได้ หรือจะเป็นการเลือกรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ และที่สำคัญคือควรรับประทานอาหารที่สด ใหม่ สุก และสะอาดอยู่เสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าสารอาหารที่จะเข้าสู่ร่างกายนั้นปลอดจากเชื้อโรค โดยเฉพาะ ณ เวลานี้ที่เราทุกคนมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกรับประทานสารอาหารที่มีสรรพคุณช่วย เสริมภูมิ คุ้มกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อาทิ จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ (Probiotics) จุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประโยชน์ในการสร้าง เสริมภูมิ คุ้มกัน สามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ อย่างพวกโรคภูมิแพ้ แก้หวัดได้ หรือเลือกรับประทานสมุนไพรใกล้ตัวอย่าง “ขมิ้นชัน” ที่เปี่ยมไปด้วยสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) และ เดเมทอกซี่เคอร์คูมิน (Demethoxycurcumine) ที่มีฤทธิ์ต่อต้านการอักเสบของเนื้อเยื่อ และยังช่วยลดการอักเสบของปอดที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่ถูกทำลาย...

Read more...
ขมิ้นชัน

ขมิ้นชัน และเลือดจระเข้ สมุนไพรสู้โควิด-19

นอกจากภัยใกล้ตัวอย่างเรื่องของฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพปอดแล้ว ปัจจุบันยังมีเรื่องของเชื้อไวรัสติดต่อสายพันธุ์ใหม่อย่างโควิด-19 ที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจโดยตรง ในผู้ป่วยบางคนอาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ดังนั้นการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาวิกฤตที่เรากำลังเผชิญกับโรคระบาดสายพันธุ์ใหม่นี้ โดยเทคนิคง่ายๆ ในการดูแลตัวเองเพื่อสร้างเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงขึ้น ควรเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น... การเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยต้องแน่ใจว่าอาหารที่คุณรับประทานนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายและครบถ้วนจริงๆ การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยร่างกายของคนเรานั้นต้องการน้ำเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ เสมือนเป็นน้ำมันเครื่องหล่อลื่นเครื่องยนต์ เพื่อทำให้ระบบการทำงานและระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ และอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ "การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกวัน" อย่างน้อยวันละ 30 นาที เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทาน เพราะการออกกำลังกายเป็นวิธีการเพิ่มปริมาณออกซิเจน (Oxygen) ให้แก่ร่างกายโดยตรง อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อปอดและหัวใจให้แข็งแรง และเมื่อร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากพอก็จะทำให้เราห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ โดยคุณสามารถเริ่มต้นใส่ใจดูแลตัวเองทั้งจากภายในและภายนอก ได้ด้วยการดูแลอาหารการกิน ตลอดจนถึงการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งพฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้จะมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยปกป้องร่างกายของคุณให้แข็งแรง เพื่อสู้โควิด-19 และห่างไกลจากโรคภัยรุมเร้าอื่นๆ นอกเหนือจากการดูแลตัวเองในขั้นพื้นฐานแล้ว คุณยังสามารถเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ด้วยการเลือกรับประทานสมุนไพรไทยที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยสู้โควิด-19 อย่าง “ขมิ้นชัน” ที่มีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบในปอดที่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ โดยคนไทยมักจะคุ้นชินกันอยู่แล้วว่า ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่นิยมนำมาใช้ปรุงอาหาร และในปัจจุบันยังได้มีการคิดค้นนำไปพัฒนาต่อยอดทำเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวมไปถึงอาหารเสริมอื่นๆ อีกมากมาย โดยจากงานวิจัยพบว่าสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoids) และ...

Read more...
ออกซิเจนในเลือด

ออกซิเจนในเลือด (Oxygen) จำเป็นต่อร่างกายอย่างไร?

ปริมาณ ออกซิเจนในเลือด นั้นส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราได้ โดยระดับออกซิเจนปกติในร่างกาย คือ แรงดันออกซิเจนหรือค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนอยู่ที่ 96-99% ซึ่งเป็นสภาวะที่ดีที่สุดต่อร่างกาย ซึ่งระดับออกซิเจนนี้จะส่งผลให้ 1. สมองทำงานดี เนื่องจากเซลล์สมองจะใช้ปริมาณออกซิเจนมากกว่า 20% ของออกซิเจนทั้งหมดในการทำงาน ดังนั้นเมื่อร่างกายมีออกซิเจนอยู่ในระดับปกติ จะทำให้เซลล์สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้มีความจำดี มีสมาธิในการเรียนและการทำงาน เรียนรู้เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดี และช่วยให้ระบบภายในร่างกายทำงานได้ปกติภายใต้การสั่งงานของสมองที่ถูกต้อง 2. ผิวพรรณดี เนื่องจากออกซิเจนและน้ำคือองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์ ดังนั้นเมื่อร่างกายได้รับน้ำและออกซิเจนในปริมาณที่เพียงพอ เซลล์ที่อยู่ในร่างกายก็จะแข็งแรงสมบูรณ์ ส่งผลให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และช่วยให้เซลล์มีอายุยืนขึ้น ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดขึ้นก่อนวัยอันควร 3. ร่างกายแข็งแรง ออกซิเจนที่อยู่ในรูปของน้ำ เมื่อเข้าร่างกายจะดูดซึมเข้าสู่ตับ เซลล์ของตับจะได้รับออกซิเจนที่อยู่ในน้ำโดยที่เซลล์ตับจะดึงออกซิเจนมาใช้ในกระบวนการเปลี่ยนสารอาหารที่ดูดซึมเข้ามาให้เป็นพลังงานส่งให้กับร่างกาย เมื่อเซลล์ตับแข็งแรงจึงสามารถสร้างพลังงานเพียงพอในการใช้งานของร่างกาย ร่างกายจึงแข็งแรงสมบูรณ์และยังช่วยให้ตับสามารถขับสารพิษออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการตกค้างของสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย หากเกิดสภาวะ ออกซิเจนในเลือด ต่ำได้ เราสามารถแก้ไขได้ดังนี้1. สูดหายใจเข้าลึกๆ การสูดหายใจเข้าลึกๆ ยาวๆ จะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนจากอากาศเข้าสู่ร่างกายเพิ่มมากขึ้น ลดอาการออกซิเจนต่ำได้ เช่น อาการขาดออกซิเจนเนื่องจากความเครียด เพราะว่าเวลาที่เราเครียด กล้ามเนื้อของเราจะเกร็ง หายใจสั้นๆ ดังนั้นเมื่อเราหายใจยาวๆ จะช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ...

Read more...
เลือดจระเข้ ผลวิจัย

เลือดจระเข้ ผลวิจัย ที่อาจไขความลับสู่การบำรุงรักษาสุขภาพ

เลือดจระเข้ ผลวิจัย ที่เล่าถึงประโยชน์ของเลือดจระเข้ สัตว์ที่มีร่างกายแข็งแรง จะทำให้ร่างกายมนุษย์แข็งแรงแบบจระเข้ได้อย่างไร  Previous Next แรงกัดของจระเข้ไม่เพียงแต่จะแข็งแกร่งที่สุดแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันของพวกมันก็มีศักยภาพมากเช่นกัน จระเข้เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยอยู่บนโลกนี้มานานกว่า 230 ล้านปี ซึ่งจระเข้เป็นสัตว์ที่หายใจโดยใช้ปอด แต่ยังสามารถกลั้นหายใจใต้น้ำได้นานกว่า 1 ชั่วโมง นานกว่าวาฬ โลมา และแมวน้ำ เป็นเพราะความสามารถในการขนส่งออกซิเจนของโปรตีนในเลือดของจระเข้นั้นสามารถเพิ่มความจุปริมาณของออกซิเจนในเลือดได้มากกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ 100 เท่าในร่างกายของจระเข้มีสารชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสามารถต้านทานโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส มีงานวิจัยพบว่า ฮีโมโกลบินในเลือดจระเข้สามารถทำลายเชื้อแบคทีเรีย 23 สายพันธุ์รวมถึงสายพันธุ์ที่ทนทานหรือดื้อต่อยาปฏิชีวนะอีกด้วย จึงส่งผลให้อายุจระเข้ยืนยาวราว 70-100 ปีระบบภูมิคุ้มกันของจระเข้นั้นแข็งแกร่งมากเมื่อเทียบกับมนุษย์ หลักฐานนี้จึงนำไปสู่สมมติฐานที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันของจระเข้มีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นนักวิจัยส่วนใหญ่เชื่อว่าภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติในจระเข้นั้นแข็งแกร่งกว่ามนุษย์มาก เพราะมันสามารถอยู่รอดได้เป็นเวลานาน นักวิทยาศาสตร์จึงเห็นพ้องกันว่าจระเข้มีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงที่สุดในโลก ที่มาของการใช้เลือดจระเข้เพื่อสุขภาพคืออะไร เลือดจระเข้ ผลวิจัย มีงานวิจัยรองรับหรือไม่ การศึกษาจากในไทยและต่างประเทศให้ผลว่าอย่างไรบ้าง หาคำตอบได้ในบทความนี้ที่มาของการเลือดจระเข้ ผลวิจัยเพื่อสุขภาพตามความเชื่อของชาวจีน มีการนำเนื้อจระเข้มาทำเป็นยาตั้งแต่ในสมัยโบราณ เพื่อใช้รักษาโรคเกี่ยวกับปอดและเสริมความจำ นอกจากนี้ยังมีการนำกระดูกและเลือดของจระเข้ มาใช้เป็นส่วนประกอบของยาสมุนไพร เช่น นำมาต้มเป็นน้ำซุป ด้วยเชื่อว่าสามารถบำรุงร่างกายให้แข็งแรง เสริมพละกำลังนักชีววิทยายังได้เฝ้าสังเกตชีวิตจระเข้ตามธรรมชาติ พบว่าจระเข้เหล่านั้นมักมีพฤติกรรมหวงถิ่น มีการต่อสู้กันเองหรือต่อสู้กับสัตว์อื่นจนบาดเจ็บ จนบางครั้งถึงกับสูญเสียอวัยวะ แต่ทั้งๆ อาศัยอยู่ในบึงที่เต็มไปด้วยแบคทีเรีย...

Read more...

ธาตุเหล็ก คืออะไร ทำไมร่างกายเราถึงต้องการเสริมธาตุเหล็ก

ธาตุเหล็ก คืออะไร ทำหน้าที่อะไรในร่างกายเรา? ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อชีวิตและมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เซลล์ทั้งหมดของคุณมีธาตุเหล็กอยู่บ้าง แต่ธาตุเหล็กส่วนใหญ่ในร่างกายอยู่ในเซลล์เม็ดเลือดแดงของคุณซึ่งมีออกซิเจน เซลล์เม็ดเลือดแดงส่งออกซิเจนจากปอดไปยังอวัยวะและเนื้อเยื่อทั่วร่างกาย เหล็กมีบทบาทในการสร้างพลังงานจากสารอาหาร นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการส่งแรงกระตุ้นเส้นประสาทที่ประสานการทำงานของส่วนต่างๆของร่างกาย ดังนั้นคุณสามารถได้รับธาตุเหล็กจากอาหารและจากอาหารเสริม อาหารที่มีธาตุเหล็กน้อยเกินไปอาจทำให้เกิดโรคโลหิตจาง ระดับเม็ดเลือดแดงต่ำและทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง คนทั่วไปจะได้รับธาตุเหล็กที่จำเป็นการจากอาหารที่พวกเขากิน แต่มีบางสำหรับบางกรณีและเงื่อนไข คุณอาจจำเป็นต้องเพิ่มธาตุเหล็กเสริมในอาหารของคุณ   โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กนั้นเกิดจากการที่มีธาตุเหล็กในเซลล์เม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอ หากไม่มีระดับธาตุเหล็กที่เหมาะสม เซลล์เม็ดเลือดแดงของคุณจะไม่สามารถให้ออกซิเจนกับเซลล์และเนื้อเยื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาการของโรคโลหิตจางรวมถึงความเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ ความยากลำบากในการโฟกัส โรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเป็นโรคโลหิตจางที่พบมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา เกือบ 5 ล้านคน   มีประจำเดือน การมีประจำเดือนทำธาตุเหล็กลดลง นี่คือเหตุผลที่ผู้หญิงมีอัตราโรคโลหิตจางสูงกว่าผู้ชาย ในเดือนมีนาคม 2550 นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคนตักกี้เสนอว่าเชื้อชาติเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคโลหิตจาง ผู้หญิงแอฟริกัน - อเมริกันและเม็กซิกัน - อเมริกัน เป็นโรคโลหิตจางถึงประมาณ 19% เทียบกับผู้หญิงผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวสเปนที่เป็นเพียง 9% - 12%   ประสบการณ์การสูญเสียเลือดปกติ ผู้ที่มีอาการเลือดออกมากเกินไปมักต้องการธาตุเหล็กเพิ่ม ผู้บริจาคโลหิตและผู้ที่มีเลือดออกในทางเดินอาหารเป็นประจำมีความเสี่ยง เลือดออกในทางเดินอาหารอาจเกิดจากยาหรือเงื่อนไขเช่นแผลและมะเร็ง สำหรับผู้ที่มีธาตุเหล็กต่ำ ไม่แนะนำให้บริจาคโลหิตเป็นประจำ   คุณกำลังล้างไต หลายคนที่เป็นโรคไตต้องได้รับธาตุเหล็กเสริม ไตมีหน้าที่สร้าง erythropoietin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่บอกให้ร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง หากไตไม่ทำงาน โรคโลหิตจางมักเป็นผลข้างเคียง อาจมีการเสียเลือดเล็กน้อยในระหว่างการล้างไต...

Read more...
สมุนไพร โรคมะเร็ง 4MEGA SUPERFOOD 4MEGA อาหารเสริม ขมิ้นชัน

สมุนไพร โรคมะเร็ง : ขมิ้นชันและต้นอ่อนข้าวสาลี

สมุนไพร โรคมะเร็ง เป็นที่สนใจของคนในปัจจุบัน เพราะปัจจุบันคนมะเร็งตับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของโรคมะเร็งในไทย (ข้อมูลจาก กรมการแพทย์) ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งตับจะมีอาการไม่อยากอาหาร น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ คลื่นไส้อาเจียน มีอาการบวมและเจ็บที่ช่องท้อง หรือคลำพบก้อนใต้ชายโครง การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันมีหลากหลายทางเลือก เช่น การใช้ยา การรักษาด้วยคีโม เป็นต้น เมื่อรู้อย่างนี้แล้วการดูแลใส่ใจกับร่างกายโดยเฉพาะตับนั้นจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในแต่ละวันเรารับสิ่งแปลกปลอมและสังเคราะห์เข้าไปในร่างกายจำนวนมาก ดังนั้นการหันมาใช้ สมุนไพร โรคมะเร็ง จากธรรมชาติแทนยาเป็นอีกทางเลือกในการดูแลร่างกายและรักษาโรคมะเร็ง สมุนไพรที่ขึ้นชื่อในเรื่องช่วยรักษาโรคมะเร็งและบำรุงตับคือขมิ้นชันและต้นอ่อนข้าวสาลี เราลองมาดูกันว่าสองชนิดนี้มีประโยชน์และช่วยอะไรบ้าง ขมิ้นชัน ปัจจุบันมีงานศึกษาวิจัยมากมายที่ค้นพบคุณค่าของขมิ้นต่อโรคมะเร็ง ถือเป็น สมุนไพร โรคมะเร็ง ชนิดหนึ่ง พบว่าสารเคอร์คูมินในขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านการเกิดมะเร็ง ทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเป็นปกติ ป้องกันการแพร่กระจายของมะเร็ง ทำให้เซลล์มะเร็งตายและป้องกันการตายของเซลล์ปกติ นอกจากนี้ สารเคอร์คูมินในขมิ้นชันยังมีฤทธิ์ลดการแบ่งตัว ยับยั้งการเติบโต ยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพในเซลล์มะเร็งหลาย ๆ ชนิด ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ และมะเร็งตับอ่อน ที่สำคัญคือขมิ้นชันเป็นสมุนไพรที่มีการทดลองในคน เช่น มะเร็งตับอ่อน มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งทวารหนัก มะเร็งกระดูก ต้นอ่อนข้าวสาลี คุณสมบัติของต้นอ่อนข้าวสาลีนั้น...

Read more...